- ได้ใช้ประกันอุบัติเหตุที่ทำไว้เป็นครั้งแรกตั้งแต่ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญมา
- ได้แผลขนาดใหญ่ที่เข่า ต้องไปล้างแผลที่โรงพยาบาลทุกวันเป็นเวลาเกือบสองอาทิตย์ตามคำพิพากษาของเจ้าหน้าที่
- โดนพ่อแม่พี่น้องลุงป้าน้าอาและคนข้างบ้านสอบเกี่ยวกับแผลที่ได้ว่าขาขาดอยู่แล้วหรือพึ่งขาด เอ้ย ถามว่าแผลนี้ท่านได้แต่ใดมา
- และคุณๆเหล่านั้นที่ฟังที่มาของแผลจบมักจะเล่ากรณีศึกษาที่ได้เจอมาให้ผมฟังถึงความไม่ชอบธรรมของรถเมล์ร้อนในระบอบทุนนิยม (ที่ฟังมามีคนตกรถเมล์แล้วไหปลาร้าหักก็มี)
- โดนคำสั่งศาลชั้นต้นจากพ่อแม่ไม่ให้ขึ้นรถเมล์ร้อนอีกต่อไป และไม่ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อ แต่แอบขึ้นบ้างเมื่อกฎหมายครอบคลุมไปไม่ถึง
- หลังจากที่เวลาผ่านไปเกือบปีก็ยังโดนโรงพยาบาลตามตัวให้เอาหลักฐานแสดงตนในการประกันตัว เอ้ย ประกันอุบัติเหตุไปยื่นต่อคณะกรรมการ (โรงพยาบาลทำงานยังไงของมันวะ ผ่านมาเกือบปีค่อยมาขอทะเบียนบ้าน)
ที่อยู่ดีๆมาเล่าเรื่องนี้ให้ฟังก็ไม่มีอะไรหรอกนะครับแต่เป็นเพราะว่าอยากบล็อกตอนที่แล้วมันทำให้คิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาครับเรื่องเอามาเขียนซะหน่อย
ปล. ผมไม่ได้เป็นเฮียอู่แท็กซี่ ไม่ได้เป็นคนคุมวินรถตู้ ไม่ได้เกลียดรถเมล์ (ผมชอบรถเมล์นะครับ ชอบขึ้นรถเมล์ ชอบขึ้นมากกว่ารถตู้อีก) แต่ที่มาเขียนนี่แค่อยากเล่าเฉยๆครับ ไม่ได้มาบ่อนทำลายขสมก.ใดๆทั้งนั้น ยกเว้นแต่บ่อนไพ่นั่นอีกเรื่องนึง
เคยตกรถเมล์เหมือนกัน ตอนไปเรียน รด.
ตอบลบยืนรอเพื่อนซื้อของที่ 7-eleven อยู่ ปรากฏว่าเห็นรถเมล์สาย 16 วิ่งมาสองคันติด
กว่าเพื่อนจะออกมา รถทั้งสองก็วิ่งออกจากป้ายไปแล้ว
ผลก็คือ เพื่อนโดนตบหัวจนแตก ใช้บริการ 30 บาท
อ้าว ตกรถคนละแบบนี่หว่า