วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2552

ชีวิตและความตาย[2]

เรื่องที่ 2 คุยกับกิ๊บ
จากที่เล่าให้ฟังในตอนที่แล้วไปว่าในช่วงปีใหม่นั้นผมต้องอยู่ทำงาน NSC ที่มหาลัยจนต้องกลับดึกๆทุกๆวัน ก็มีอยู่วันนึงครับถ้าจำไม่ผิดคิดว่าคงเป็นวันสิ้นปี ตอนนั้นผมก็นั่งทำงานไป และก็ออนเอ็มไปด้วย พอทำงานเบื่อๆก็เลยดูรายชื่อคนที่กำลังออนอยู่ครับ จะหาเพื่อนคุยแก้เบื่อ ตอนนั้นก็ไม่เจอเพื่อนที่สนิทๆจะชวนคุยซักคน ก็เลยทักเพื่อนเก่าที่เรียนด้วยกันตอนม.ปลายที่เตรียมฯครับ เป็นเพื่อนผู้หญิงชื่อกิ๊บ กิ๊บเค้าเรียนแพทย์เชียงใหม่ครับ ผมกับกิ๊บก็ไม่ได้สนิทกันมากมายหรอกนะ แต่ก็เคยคุยเอ็มกันอยู่บ้าง วันนั้นมันช่วงปีใหม่พอดีก็เลยทักไปเพื่อหวัดดีปีใหม่ซะหน่อย แล้วก็ถามไถ่สารทุกข์สุบดิบกันตามประสา ผมก็ถามกิ๊บว่า เป็นไงบ้าง (คำถามยอดฮิต แต่ตอบโคตรยาก) กิ๊บก็ตอบมาครับว่าเศร้าๆ รู้สึกไม่ค่อยดี พอถามสาเหตุไป กิ๊บก็ตอบกลับมาว่าตอนนี้เค้ามีคนไข้อายุ 26 เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย . . .

เฮ่อ ฟังแล้วก็ใจหายยังไงไม่รู้นะครับ อายุ 26 ก็มากกว่าผมแค่สี่ห้าปีเอง เฮ่อ

แล้วกิ๊บก็บอกผมมาว่ามาเรียนหมอเนี่ยทำให้เข้าใจอย่างนึงว่า ชีวิตคนเรามันสั้นนะ ก่อนจะตบท้ายด้วยประโยคสุดฮิตที่ว่า "อยากทำอะไรก็รีบทำ"

ประโยคนี้อีกแล้ว ผมฟังประโยคนี้มาจะร้อยรอบได้แล้วมั้ง แต่ไม่มีรอบไหนเลยที่ผมจะรู้สึกตระหนักได้ขนาดนี้ นั่นสินะ ชีวิตคนเรามันสั้นเนอะ สั้นจริงๆ อยากทำอะไรก็รีบๆทำ

อ่านประโยคนี้จากกิ๊บในตอนนั้นมีภาพหลายๆอย่างโผล่ขึ้นมาในหัวเลยครับ เป็นภาพผมกำลังทำสิ่งที่ผมอยากทำแต่ตอนนี้ไม่กล้าทำ เป็นภาพที่ผมกำลังจะตายแล้วกลับมานั่งเสียดายว่าทำไมถึงไม่ทำ แต่ก็อีกนั่นแหละ ถึงผมจะตระหนักได้ถึงความเป็นจริงของประโยคนี้แต่ทำไมนะ ผมถึงยังไม่รีบทำในสิ่งที่อยากทำอีก ทำไมกันนนนน

(ความจริงผมก็รู้คำตอบแหละนะครับ แต่ก็ไม่รู้ว่าเหตุผลนั้นมีน้ำหนักมากพอรึปล่าว)

ครับ ชีวิตคนเรามันสั้นนะครับ อยากทำอะไรก็รีบๆทำ

ขอให้คุณคนที่อ่านบล็อกของผมอยู่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำนะครับ

ผมเอง

2 ความคิดเห็น: