[บล็อกตอนนี้ยังไม่ได้ใส่รูป เดี๋ยวจะใส่รูปเพิ่มทีหลัง]
การแข่งจะเริ่มจริงวันพุธที่ 16 กรกฎาครับ แต่เค้าเปิดให้เราเข้าไปเตรียมของได้ตั้งแต่วันจันทร์ แน่นอนว่าทีมผมก็เข้าไปเตรียมของตั้งแต่จันทร์เช้าแน่นอน
วันจันทร์ก็เข้าไปติดกล้องแล้วก็เอาหุ่นลองสนามครับ แต่ว่าที่นู่นก็เตรียมอุปกรณ์ไว้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ บันได้ที่ใช้ปีนขึ้นไปเพื่อติดกล้องมีอยู่ตัวเดียวครับ!!! แต่มีทีมต้องใช้ 17 ทีม!!! แต่โชคดีครับที่ทีมผมไปเช้า ตอนนั้นยังไม่ค่อยมีทีมไหนไปติดตั้ง ตอนไปก็เห็นทีมจีนอยู่ทีมนึงกำลังใช้บันไดอยู่ พอเค้าใช้เสร็จก็เลยได้ใช้ต่อ ไอ้ผมก็ใช้บันไดไปซะประมาณ 2 ชั่วโมงได้ พอผมใช้เสร็จคิวบันไดมันก็เริ่มมั่ว แบบว่าทีมนู้นทีมนี้มาต่อคิวใช้บันไดกันไม่รู้ว่าทีมไหนมาก่อนกันแน่ สุดท้ายไม่รู้ว่าทีมไหนเป็นคนคิดขึ้นมา เค้าเอากระดาษมาแปะบันไดแล้วเขียนคิวลงไป แถมตอนหลังๆหลายทีมเค้าใช้บันไดกันนานเหลือเกิน ก็ไม่รู้ทีมไหนอีกเหมือนกันเขียนกำหนดไว้ในกระดาษเลยว่าใช้ได้แค่ครั้งละครึ่งชั่วโมง (หลังจากที่ผมใช้บันไดเสร็จแล้วผมก็ค้นพบว่าต้องปรับกล้องอีกนิดหน่อยก็เลยไปต่อคิวบันไดซะ (ตอนประมาณ 10 โมง) แล้วก็พบว่ากว่าจะเวียนมาถึงทีมผมก็ประมาณ 4 โมงเย็น!!!)
อีกเรื่องก็คือสนามครับ ทีมผมก็บ่นกันตั้งแต่วันอาทิตย์ที่เข้ามาดูสนามแล้วครับว่าสนามที่เค้าจัดเตรียมไว้ให้ฟูเกินไป แถมเส้นสนามที่ตีไว้ก็ใช้สีอะครีลิคทาซะอีก ทำให้เส้นนั้นนูนขึ้นมามาก มีปัญหากับการวิ่งของหุ่นทีมผมครับ อ้อ ไม่ใช่สิ ก็เป็นปัญหากับทุกทีมแหละครับ สุดท้ายเค้าเลยให้พนักงานมาขูดเส้นออกให้ แต่มันก็ยังนูนอยู่ดีอะ
วันที่ซ้อมสองวันนี้ก็มีเรื่องที่ฮือฮาเรื่องนึงครับ คือตอนที่ทีม CMDragon จากมหาวิทยาลัยคาร์เนกี้ เมลลอน เอาหุ่นเค้าลงสนามครั้งแรก หุ่นของเค้าวิ่งตามลูกบอลได้โดยไม่ต้องเปิดกล้อง ทีมผมคาดการณ์ว่าทีมนู้นคงลืมเปิดกล้อง เลยเดินเข้าไปเตือน ซะที่ไหนกันหละว้อย มันจะลืมเปิดกล้องได้ยังไงเล่า หุ่นเค้าเจ๋งจริงๆครับ มีแถบเซนเซอร์อยู่ข้างหน้าหุ่นคอยเช็คลูกบอล ตอนผมเห็นครั้งแรกนี่ทึ่งจริงๆครับ ทึ่งว่าเค้ามีความคิดอย่างนี้ได้ไง ก็ดูเหมือนเป็นความคิดเล็กน้อยธรรมดานะครับแต่ผมก็ว่ามันเป็นความคิดเล็กๆน้อยๆที่สุดยอดไปเลยครับ สมแล้วที่เป็นคาร์เนกี้ เมลลอน มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงทางด้านคอมพิวเตอร์ติดท็อปไฟว์ของอเมริกา แถมเคยมีคนบอกว่าที่มหาลัยนี้มีห้องแล็บหุ่นยนต์ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย พูดตามตรงเลยนะครับว่า ตอนนั้นผมมีความคิดว่าถึงผมจะต้องมาแพ้ทีมนี้ผมก็ไม่เสียใจเลยครับ แพ้ทีมจากมหาลัยที่มีแล็บหุ่นยนต์ใหญ่ที่สุดในโลกเนี่ย ยอมรับเลยครับว่าคลังความรู้ของเราสู้เค้าไม่ได้จริงๆ
(แถมอีกนิดทีมนี้เป็นแชมป์โลกเมื่อปีที่แล้ว)
ในสองวันนี้ทีมผมก็พยายามซ้อมทุกครั้งที่สนามว่างเลยครับ ซ้อมจนบางครั้งผมก็คิดว่าทีมผมซ้อมจนไปรบกวนการใช้สนามของทีมอื่น (เดี๋ยวถ้าไม่ลืมจะพูดถึงเรื่องนี้อีกที) แล้วมีวันนึงทีมผมก็ขอแข่งกระชับมิตรกับทีม MRL จากอิหร่านครับ ทีมอิหร่านอาจฟังดูเหมือนเป็นประเทศที่ด้อยพัฒนาแต่ความจริงแล้วผมว่าอิหร่านก็เป็นประเทศที่เยี่ยมใช้ได้เลยนะ ฟังดูจากที่หลายๆคนเล่า ประเทศเค้าโดนอเมริกากดมากมายแต่ก็ยังทำได้ถึงขนาดนี้ผมนับถือเค้าจริงๆเลยครับ ตอนซ้อมกับทีมอิหร่านก็มีเรื่องตลกๆเกิดขึ้นครับ ซ้อมๆอยู่ดีๆหุ่นทีมเค้าก็มีอะไรหลุดออกมาไม่รู้ เดาว่าเป็นเฟืองหละมั้ง ผมเห็นไม่ชัด ทีมผมก็เลยรีบหยุดซ้อมซะให้ทีมอิหร่านเข้าไปซ่อมหุ่น แต่ทีมอิหร่านก็กลับบอกมาว่า "It's OK." เฮ้ย มันโอเคได้ไงวะ เฟืองหลุดมาทั้งตัว เสือกวิ่งต่ได้ซะงั้น แล้วก็แข่งไปอีกซักพักคราวนี้วงจรไฟเค้าก็พังครับ เฮ่อ ค่อยยังชั่วหน่อยที่ทีมเค้ายกหุ่นที่พังออกไปซ่อม นี่ถ้าวงจรพังแล้วยัง "It's OK." อีกหละก็ นับถือเลยหละ 555
ก. - "ไปคาเนกี้ฮอลล์ไปยังไง?"
ข. - "ก็ต้องนั่งเครื่องบินไปลงพิทช์เบอร์กแล้วค่อยต่อรถไป"
ก. - "เฮ้ย ไม่ใช่ ก็ต้องซ้อม ซ้อม แล้วก็ซ้อมดิวะ และอีกอย่างคาร์เนกี้ฮอลล์มันอยู่นิวยอร์กโว้ย พิทช์เบอร์กหนะมันคาร์เนกี้ เมลลอน"
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
รอชมภาพ
ตอบลบ