วันเสาร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2551

การฝึกงานและชีวิตมนุษย์เงินเดือน

ผ่านไปสองอาทิตย์แล้วครับสำหรับการฝึกงาน ผมเองฝึกที่ KCS ครับ คร่าวๆเกี่ยวกับบริษัทก็เป็นบริษัทที่คอยสนับสนุนงานด้านไอทีของธนาคารกรุงไทยครับ ตัวบริษัทก็มีหลายสาขา วันแรกที่เริ่มทำงานเค้าก็จะจัดให้แต่ละคนไปประจำสาขาต่างๆกันครับ

นักศึกษาฝึกงานที่นี่ก็มียี่สิบห้าคนครับ มีมหาลัยผมซะสิบสามคน ก็ได้มาทำที่สาขาเดียวกันหมดเลยครับ ตรงเพลินจิต(เดินทางสะดวกใช้ได้) ไม่รู้ว่าดีรึปล่าว แต่ก็อดทำความรู้จักเพื่อนใหม่เลย(โดยเฉพาะผู้หญิง(พูดยังกับจะกล้าเข้าไปคุยแหนะ 55+))

ที่บริษัทก็แบ่งเป็นหลายๆแผนกครับ ผมกับเพื่อนๆก็แบ่งๆกันไป แผนกที่ผมได้ไปอยู่ก็แผนก op ครับ คิดว่ามันน่าจะย่อมาจาก opertional นะ(คงไม่ได้ย่อมาจาก operator หรอก) ที่แผนกก็มีหน้าที่หลักๆคือเขียนโปรแกรมครับ

เข้างานไปวันแรกกว่าจะฟังเรื่องเกี่ยวกับบริษัทเสร็จก็ราวๆสิบเอ็ดโมงครับ ไปถึงเค้าก็ให้ผมนั่งเฉยๆ ตอนนั้นก็อึดอัดน่าดู คนข้างๆเค้าทำงานกันหมด ก็เลยคิดว่าจะเข้าไปถามหัวหน้างานดูว่ามีอะไรให้ผมทำรึปล่าว ผลปรากฎว่า
หัวหน้า - ทำอะไรเป็นบ้าง
ผม - (ก็พูดๆไป ไอ้เราก็เขียนโปรแกรมเป็นอย่างเดียวซะด้วย)
หัวหน้า - เขียน JSP เป็นมั้ย
ผม - ไม่เป็นครับ
หัวหน้า - เขียน flash เป็นมั้ย
ผม - ไม่เป็นครับ
หัวหน้า - เขียน ... เป็นมั้ย
ผม - ไม่เป็นครับ
หัวหน้า - แล้วไอ้...นี่หละ
ผม - ไม่เป็นครับ
...
หัวหน้า - ชงกาแฟเป็นมั้ย
ผม - ไม่เป็นครับ เป็นแต่โอวัลติน
(เอ่อ สองบรรทัดสุดท้ายล้อเล่นนะครับ)

สุดท้ายเค้าก็ให้พี่ที่ทำงานมาสอนผมเขียน JSP ครับ แล้วพี่ก็เลยลองให้การบ้านมาทำทดสอบความเข้าใจดู ก็สนุกดีครับ ความจริงทำไม่ค่อยจะได้เท่าไหร่ แต่พี่ที่นั่งข้างๆผมเค้าก็คอยมาช่วยดูให้ครับ(พี่เค้าไม่ใช่พนักงาน KCS แต่เป็น outsource ที่จ้างมา) เค้าก็ใจดีครับ ชวนคุยแบ่งขนม ช่วยดูงานให้ รู้สึกขอบคุณพี่เค้ามากจริงๆครับ

ถ้าถามว่างานที่ทำน่าเบื่อมั้ย ผมว่าก็สนุกนะครับ เพียงแต่บรรยากาศมันค่อนข้างอึดอัด(มันมีสาเหตุแต่ยากจะอธิบาย) พอจบวันๆนึงผมจะรู้สึกเหนื่อยมากเลยครับ แล้วพอเสาร์อาทิตย์มาถึง โห การอยู่บ้านมันมีความสุขอย่างนี้นี่เอง :)

หลังจากที่ฝึกงานมาได้ซักพัก ผมก็เริ่มรู้สึกว่าชีวิตมนุษย์เงินเดือนนี่มันค่อนข้างลำบาก(แกมสงสาร)พอสมควรเลยครับ(ผมไม่ได้เรียกว่าแย่นะครับ) ต้องมาทำงานเป็นเวลา ตอนกินข้าวก็เป็นเวลา แล้วตอนเที่ยงแถวนั้นนี่คนเยอะมากเลยครับ ต้องมาแย่งกันกินข้าว งานก็หนัก เงินเดือนก็น้อย(รึปล่าว?? ผมถามพี่ที่นั่งข้างๆว่าเค้าได้เงินเดือนเท่าไหร่ เค้าไม่ยอมบอก บอกแต่ว่า outsource อย่างเค้าได้เงินดีกว่าพนักงานประจำ)

ถ้าต้องมาเป็นมนุษย์เงินเดือนแล้วได้งานฝ่ายอธรรม เอ๊ย งานที่ไม่ชอบธรรม เอ๊ย ไม่ชอบทำ(จะเล่นทำไมวะเนี่ย) ชีวิตนี่เหมือนตกนรกจริงๆนะครับเนี่ย อืม ไม่อยากจะคิดเลยว่าพอผมเรียนจบไปแล้วจะเป็นยังไง เฮ่อ ตอนนี้ยังไม่รู้เลยเนี่ยว่าตัวเองอยากทำงานอะไร(ยังไม่รู้ด้วยซ้ำเลยมั้งว่าตัวเองชอบธรรมอะไร แต่น่าจะเป็นศีล 5 นะ น้อยดี เฮ้ยไม่ใช่ ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองชอบทำอะไร(จะเล่นอีกทำไมวะเนี่ย))

เฮ่อ พอมาเขียนถึงเรื่องนี้แล้วเครียดไงไม่รู้แฮะ ไม่ได้เครียดที่เล่นมุขแป้กนะ แต่เครียดเรื่องอนาคต รู้สึกกลัวอนาคตขึ้นมายังไงก็ไม่รู้ ไม่อยากจะคิดถึงมันเลย

2 ความคิดเห็น:

  1. สวัสดีวันสงกรานต์และวันอาทิตย์ที่น่าใฝ่หาเช่นกัน
    ขอขอบคุณที่เข้าไปแวะที่บล็อก
    และกรุณาถามถึงกลอนของข้าพเจ้า

    วันนี้ก็เลยมีกลอนมาฝากคุณ tanakorn สักหน่อย

    การฝึกงาน(เป็น)ประสบการณ์ที่ดีมาก
    ทนลำบากก่อนสบายในภายหลัง
    อยู่กับคนหลายหลากมากมายจัง
    มีคนสั่งคนสอนก่อนทำจริง

    ถึงแม้งานที่ฝึกไม่ตรงใจ
    ไม่เป็นไรฝึกวิชาหลาย ๆ สิ่ง
    ให้สามารถทำได้ไม่ถูกติง
    ฝึกทุกสิ่งก่อนได้ทำอย่างตั้งใจ

    ให้มั่นใจพี่ ๆ ที่สอนสั่ง
    ใช้พลังหากทำผิดให้แก้ไข
    อย่าอวดเก่งอวดกล้าอย่าปากไว
    ไม่ผยองเกินไปไม่อยากทำ

    ถ้าตั้งใจฝึกงานท่านจะเด่น
    เป็นที่รักของผู้เห็นท่านขยัน
    ตั้งใจเถิดตั้งใจฝึกงานกัน
    ไม่กี่ครั้งฝึกงานจบ(ใจ)สงบเอง

    ส่วนอนาคตเป็นของคุณคุณกำหนด
    จะเลี้ยวลดหรือจะให้ไปตรงเผง
    ถ้าอยากทำอะไรให้กำหนดเอง
    เป็นคนเก่งและขยันนั้น(เป็น)กำไร

    ตอบลบ
  2. หรือจบด้วย...
    เป็นคนเก่งและขยันนั้นเป็นทุน
    ก็ได้...

    ตอบลบ